หากสิ่งที่คุณต้องการคือการเลือกแสดงส่วนและการนำทางระหว่างส่วนหัวคุณไม่จำเป็นต้องใช้โหมดองค์กร ทั้งหมดที่คุณต้องเป็นโหมดโครงร่าง โหมดเค้าร่างนั้นเป็นระดับส่วนหัวและการจัดการการมองเห็นส่วนของโหมดองค์กร ในความเป็นจริงโหมดองค์กรเดิมนามสกุลของผู้เขียนไปยังโหมดเค้าโครงและเติบโตและขยายตัวและเติบโต ... แม้วันนี้ได้มาจากorg-mode
outline-mode
โหมดเค้าร่างมีอยู่ทั้งในโหมดหลักและโหมดรอง โหมดรองสามารถใช้ในโหมดหลักใด ๆ คุณสามารถกำหนดค่าให้ใช้รูปแบบส่วนหัวที่เข้ากันได้กับไวยากรณ์โปรแกรมของคุณและโหมดหลัก ๆ ทำได้โดยตั้งค่าoutline-regexp
ตัวแปรให้เป็น regexp ที่ตรงกับจุดเริ่มต้นของส่วนหัว ตัวอย่างเช่นนี่เป็นค่าเริ่มต้นในโหมด Emacs Lisp:
";;;\\(;* [^ \t\n]\\|###autoload\\)\\|("
เช่นส่วนหัวเริ่มต้นด้วยอัฒภาคสามตัวขึ้นไปและเว้นวรรคหนึ่งช่องหรือวงเล็บเปิดที่ขอบซ้าย ตัวแปรoutline-level
มีชื่อของฟังก์ชันเพื่อกำหนดความลึกของส่วนหัว; ค่าเริ่มต้นคือความยาวของสตริงจับคู่โดยoutline-regexp
, และโหมด Emacs เสียงกระเพื่อมแทนที่มันจะกำหนดความลึกขนาดใหญ่และ(
;;;###autoload
ถ้าคุณไม่ชอบรูปแบบส่วนหัวเริ่มต้นตั้งค่าตัวแปรoutline-regexp
ในไฟล์ประกาศตัวแปรท้องถิ่น นี่คือสิ่งที่ฉันใช้ - ส่วนหัวของฉันทั้งหมดประกอบด้วย;;;
ลำดับดาวคลาสสิกตามด้วย:
;;; Local Variables:
;;; outline-regexp: ";;;\\*+\\|\\`"
;;; End:
หากคุณต้องการให้โหมดย่อยเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อคุณโหลดไฟล์เพิ่มบรรทัดต่อไปนี้ในส่วน Local Variables - โปรดทราบว่าสิ่งนี้จะเตือนคุณเกี่ยวกับรหัสที่ไม่ปลอดภัยใน Emacs ≤23.x
;;; eval: (outline-minor-mode 1)
คำสั่งสำหรับเค้าร่างโหมดรองใช้ส่วนC-c @
นำหน้าค่อนข้างไม่สะดวกโดยปริยาย ฉันย้ายไปที่M-o
(ฉันไม่เคยใช้การผูก facemenu) คุณอาจต้องการคีย์อื่นหรือทำซ้ำการเชื่อมโยงของโหมด Org (ซึ่งแยกจากโหมด Outline เล็กน้อย)
org
จาก elpa แทนที่จะเป็นข้อมูลorg
ที่มีอยู่ใน emacs ที่สะอาด ดูเหมือนว่าpackage
รหัสการเริ่มต้นจะต้องถูกดึงออกมาsettings.org
และใส่ลงไปinit.el
?