วิธีการที่ค่อนข้างง่ายคือการเลือกพื้นฐานในพื้นที่ทำงานและแปลงการแปลงอินทิกรัลเป็นเมทริกซ์ จากนั้นคุณก็สามารถกลับเมทริกซ์
ศาสตร์นี่คือวิธีการทำงานของว่าที่คุณต้องกำหนดหน้าที่ orthonormal พื้นฐานบาง ) (คุณจะได้รับไปโดยที่พวกเขาถูกปกติเกินไป แต่มันง่ายที่จะอธิบายวิธีนี้.) orthonormal หมายความว่าผลิตภัณฑ์ภายใน⟨ T ฉัน , T J ⟩ = δ ฉันเจที่Ti(x)⟨Ti,Tj⟩=δij
⟨Ti,Tj⟩≡∫baW(x)Ti(x)Tj(x)dx=δij(1)
นี่คือฟังก์ชันน้ำหนัก และข้อ จำกัด ในการและBจะเชื่อมโยงกับทางเลือกของTฉัน เมื่อคุณเลือกฟังก์ชั่นพื้นฐานที่จะใช้คุณสามารถกำหนดรหัสขีด จำกัด และฟังก์ชั่นน้ำหนักลงในโปรแกรมของคุณได้W(x)abTi
การใช้ orthonormality คุณสามารถแสดงฟังก์ชันใด ๆ เช่นและF ( y )เป็นชุดค่าผสมเชิงเส้นของฟังก์ชันพื้นฐานเหล่านี้:f(x)F(y)
f(x)=∑iciTi(x)F(y)=∑jCjTj(y)(2)
โดยที่ค่าสัมประสิทธิ์ถูกคำนวณเป็น
ciCj=⟨f,Ti⟩=∫baW(x)f(x)Ti(x)dx=⟨F,Tj⟩=∫baW(y)F(y)Tj(y)dy(3)(4)
คุณสามารถตรวจสอบว่านิพจน์เหล่านี้สอดคล้องกับคำจำกัดความของสัมประสิทธิ์ eq (2) และ orthonormality, eq (1)
ตอนนี้คำนวณการแปลงของฟังก์ชันพื้นฐานแต่ละตัว ขอเรียกว่า )T~i(y)
T~i(y)≡∫∞0yexp[−12(y2+x2)]I0(xy)Ti(x)dx
เป็นฟังก์ชั่นและคุณสามารถแสดงมันเป็นการรวมกันเชิงเส้นของฟังก์ชันพื้นฐานเช่นเดียวกับที่เราทำกับf(x)และF(y):T~i(y)f(x)F(y)
T~i(y)=∑kAikTk(y)
เมื่อองค์ประกอบเมทริกซ์ถูกกำหนดเช่นเดียวกับที่เราพบc iและC jด้านบน:AikciCj
Aik=⟨T~i,Tk⟩=∫baW(y)T~i(y)Tk(y)dy(5)
ikTi(x)W(x)
AikciCjf(x)F(y)
∑jCjTj(y)F(y)=∫∞0yexp[−12(y2+x2)]I0(xy)∑iciTi(x)f(x)dx=∑ici∫∞0yexp[−12(y2+x2)]I0(xy)Ti(x)dx=∑ici∑kAikTk(y)
CℓTℓ
⟨(∑jCjTj),Tℓ⟩∫baW(y)∑jCjTj(y)Tℓ(y)dy∑jCj∫baW(y)Tj(y)Tℓ(y)dy∑jCjδjℓCℓ=⟨(∑ici∑kAikTk),Tℓ⟩=∫baW(y)∑ici∑jAikTk(y)Tℓ(y)dy=∑ici∑kAik∫baW(y)Tk(y)Tℓ(y)dy=∑ici∑kAikδkℓ=∑iciAiℓ
ℓCj
CjciAijciAijCjF(y)
F(y)Cj
Cj=∑iciAij
A
ij1NNf(x)T1(x),…,TN(x)1MF(y)T1(y),…,TM(y)M=NMNNciAM×NA11ANM
[−1,1]TiW(x)=11−x2√a=−1b=1⟨Ti,Tj⟩=δijπ/2i=j≠0⟨T0,T0⟩=π