นี่คือตัวอย่างของการมีอคติเกิดขึ้นในบทสรุปได้อย่างไรและทำไมมันจึงไม่ใช่เรื่องเต็ม สมมติว่าคุณมีการทดลองใช้ยาตามลำดับซึ่งคาดว่าจะมีผลในเชิงบวก (+1) แต่อาจมีผลเสีย (-1) ห้าหนูตะเภามีการทดสอบหนึ่งหลังจากที่อื่น ความน่าจะเป็นที่รู้จักของผลบวกในกรณีเดียวคือในความเป็นจริงและผลเชิงลบ{4} 13414
ดังนั้นหลังจากห้าการทดลองความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่แตกต่างกันคือ
Outcome Probability
+5-0 = +5 243/1024
+4-1 = +3 405/1024
+3-2 = +1 270/1024
+2-3 = -1 90/1024
+1-4 = -3 15/1024
+0-5 = -5 1/1024
ดังนั้นความน่าจะเป็นของผลบวกโดยรวมคือ 918/1024 = 0.896 และค่าเฉลี่ยคือ +2.5 หารด้วย 5 การทดลองนี่เป็นค่าเฉลี่ยของ +0.5 ผลต่อการทดลอง
มันเป็นตัวเลขที่เป็นกลางขณะที่มันยังเป็น{4}+ 1 × 34- 1 × 14
สมมติว่าเพื่อป้องกันหนูตะเภาการศึกษาจะยุติลงหากผลการทดลองเป็นลบ จากนั้นความน่าจะเป็น
Outcome Probability
+5-0 = +5 243/1024
+4-1 = +3 324/1024
+3-2 = +1 135/1024
+2-3 = -1 18/1024
+1-2 = -1 48/1024
+0-1 = -1 256/1024
ดังนั้นความน่าจะเป็นของผลบวกโดยรวมคือ 702/1024 = 0.6855 และค่าเฉลี่ยคือ +1.953 หากเราดูค่าเฉลี่ยของผลลัพธ์ต่อการทดลองในการคำนวณครั้งก่อนนั่นคือใช้ , , , ,และจากนั้นเราจะได้ +0.184 +3+ 55 +1+ 35 -1+ 15 -1- 15 -1- 13- 11
นี่คือความรู้สึกที่มีอคติโดยหยุดในช่วงแรกของแผนการที่สองและอคติอยู่ในทิศทางที่ทำนายไว้ แต่มันไม่ใช่เรื่องเต็ม
เหตุใดคนผิวขาวและความน่าจะเป็นคิดว่าการหยุดเร็วควรให้ผลลัพธ์ที่เป็นกลาง เรารู้ว่าผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการทดลองในรูปแบบที่สองคือ +1.953 จำนวนการทดลองที่คาดหวังจะกลายเป็น 3.906 ดังนั้นการหารทีละอันเราจะได้ +0.5 ตรงตามก่อน