J - 1 ใน 11 17 = 1.978 x 10 -18
;(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)'''
J มีเครื่องมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับการทำงานประเภทนี้
แรกของทุกพื้นที่ใดแยกสตริงของตัวเลขเป็นหนึ่งโทเค็น มันหมายถึงอาร์เรย์หนึ่งมิติของตัวเลขเหล่านั้น นี่คือวิธี lexer ของ J ทำงาน โดยวิธีการที่สิบเจ็ด11
ถ้าใครอยากรู้อยากเห็น
(,,,{:,{:)'QUINE'''
เป็นเคล็ดลับ quine ทั่วไปใน J ทำให้ใช้โทเค็นน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้: {:
หมายถึงTailดังนั้นจึงผนวกสตริงเข้ากับตัวเองแล้วเพิ่มสองสำเนาของอักขระตัวสุดท้ายไปยังจุดสิ้นสุด ตั้งแต่ตัวอักษรตัวสุดท้ายคือคำพูดเดียว (J ใช้สตริง Pascal สไตล์) QUINE'QUINE'''
ผลที่ได้คือ
;:
เป็น tokenizer และแยกสตริงอินพุตราวกับว่าเป็นรหัส J ส่งคืนรายการกล่อง ความยาวของผลลัพธ์นี้คือ 17
~.
ใช้องค์ประกอบที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดของอาร์เรย์นี้ ความยาวของผลลัพธ์นี้คือ 11
?
เรียกว่าม้วน สำหรับแต่ละจำนวนเต็มในอาร์กิวเมนต์มันเลือกจำนวนบวกแบบสุ่มที่มากกว่าหรือเท่ากับศูนย์น้อยกว่าจำนวนนั้น ดังนั้นที่นี่ J จะสร้างตัวเลข 17 จาก 0 ถึง 10 รวม
{
ใช้ดัชนีสุ่มเพื่อเลือกรายการจากรายการโทเค็นเฉพาะในกล่องของเรา
;
เปิดช่องเหล่านี้ทั้งหมดและเรียกใช้ผลลัพธ์ร่วมกัน
ตัวอย่างบางส่วนปฏิบัติตาม บรรทัดที่เยื้องคือพรอมต์อินพุตและบรรทัดที่ล้างด้วยด้านซ้ายเป็นเอาต์พุตของล่าม
;(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)'''
~.~.(?;;:11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)'''(){11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){(;:;
;(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)'''
{';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)''',?{:;:{:';(?11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11){~.;:(,,,{:,{:)'''11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11{:{;(;:{:,~.