ตามที่วิกิพีเดียจำนวนพีชคณิตในตรงกับk inversions คือค่าสัมประสิทธิ์ของX kใน
1 ( 1 + X ) ( 1 + X + X 2 ) ⋯ ( 1 + X + ⋯ + X n - 1 )
แสดงว่านี้โดยค( n , k ) นี่แสดงให้เห็นว่า
c ( n + 1 ,SnkXk
1(1+X)(1+X+X2)⋯(1+X+⋯+Xn−1).
c(n,k)
ดังนั้นจำนวนการเรียงสับเปลี่ยนใน
S nที่มากที่สุด
k inversions เท่ากับจำนวนการเรียงสับเปลี่ยนใน
S n + 1กับ
k inversions ทุกประการ นี้มีหลักฐาน combinatorial เรียบร้อยเช่นกัน (คำใบ้: ใช้
เธ∈ S n + 1และลบ
n + 1 )
c(n+1,k)=∑l=0kc(n,k−l).
SnkSn+1kπ∈Sn+1n+1
หากเราสนใจเฉพาะค่าสัมประสิทธิ์ดังนั้นปัจจัยX mสำหรับm > kจะไม่สร้างความแตกต่าง ดังนั้นสำหรับn > k , c ( n , k )คือสัมประสิทธิ์ของX k in
XkXmm>kn>kc(n,k)Xk
นี่หมายถึงสูตร
c(n,k)=k∑t=0(n+t-k-1
==1 ( 1 + X)) ⋯ ( 1 + X+ ⋯ + Xk - 1) ( 1 + X+ ⋯ + Xk+ ⋯ )n - k1 ( 1 + X)) ⋯ ( 1 + X+ ⋯ + Xk - 1) 1( 1 - X)n - k1 ( 1 + X)) ⋯ ( 1 + X+ ⋯ + Xk - 1) ∑t = 0∞( t+n-k-1เสื้อ) Xเสื้อ.
c ( n , k ) = ∑t = 0k( n+t-k-1เสื้อ) c(k,k-t),n > k .
เมื่อเป็นค่าคงที่คำที่สำคัญที่สุดของ asymptotically คือคำที่สอดคล้องกับt = kและเรามี
c ( n , k ) = ( n - 1kt = k
asymptotics เดียวกันทำงานกับc(n+1,k)ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเป็นหลังจากนั้น
c ( n , k ) = ( n - 1k) +Ok( nk - 1) = 1k !nk+ Ok( nk - 1) .
c ( n + 1 , k )
สำหรับไม่คงที่ให้ใช้ความจริงที่ว่า( n + t - k - 1k( n+t-k-1เสื้อ) = ( n+t-k-1n - k - 1)เสื้อΣkt = 0c ( k , t ) ≤ k !
( n-1k) ≤c(n,k)≤k! ( n-1k) .