เรารู้ว่าช่องสัญญาณความกว้าง 20MHz / 40MHz มีอยู่ใน Wifi สำหรับตัวส่งสัญญาณหรือตัวรับสัญญาณ cab สามารถปรับความถี่ได้ทีละครั้ง ตัวอย่างเช่น: เครื่องส่งสัญญาณถูกปรับเป็น 2.437GHz หากใช้ช่องสัญญาณ 6 แต่ฉันสับสนกับคำว่าแบนด์วิดท์
ใน Bluetooth ใช้ช่องสัญญาณ 1MHz แบนด์วิดธ์มีความสำคัญในอัตราข้อมูลหรือไม่?
เหตุใดเราจึงต้องใช้ 20MHz / 40MHz สำหรับ Wifi และ 1MHz สำหรับบลูทู ธ สำหรับช่องสัญญาณแม้ว่าเสาอากาศกำลังจูนความถี่เฉพาะ (ถ้าฉันผิดที่นี่โปรดแก้ไขฉัน)
ขอบคุณ
คำตอบ:
ความกว้างของช่องคือ "ความกว้างของวงดนตรี" อย่างแท้จริง มันมีผลกระทบเพราะในแผนการส่งสัญญาณหลายอย่างเช่น FSK (การเปลี่ยนความถี่คีย์) ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสในรูปแบบที่ความถี่สัญญาณเปลี่ยนแปลง
มีวิธีอื่นในการเข้ารหัสข้อมูลดิจิตอลบนอะนาล็อกนับตั้งแต่ผู้ให้บริการคลื่น แต่มันแสดงให้เห็นกรณีที่การส่งสัญญาณหนึ่งสัญญาณต้องการความถี่มากกว่าหนึ่ง
Wifi ใช้ OFDM . มันใช้ผู้ให้บริการหลายรายเพื่อส่งข้อมูล ความถี่ แบนด์วิดท์ที่มีให้แปลโดยตรงกับการเพิ่มจำนวนของข้อมูลที่สามารถถ่ายโอนต่อหน่วยเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารใดก็ตามการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะเกิดขึ้นและเมื่อคุณพูดถึงการแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีความเร็ว หากคุณคิดว่ามีกลุ่มคนที่รออยู่ที่บริเวณลิฟต์เพื่อใช้ลิฟต์และขึ้นไปถึงชั้นบนสุดโดยเร็วที่สุดลิฟต์ควรมีพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้คนได้สูงสุดในแต่ละครั้ง เช่นเดียวกัน Bandwidth ต้องมีบทบาทในการถ่ายโอนข้อมูล เป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ถ่ายโอนข้อมูลได้จำนวนเท่าใด แบนด์วิดท์ที่สูงกว่าจะถ่ายโอนข้อมูลและรับอัตรา
ฉันคิดว่าคุณอาจคิดผิดพลาดว่าความถี่ศูนย์กลางของช่องเป็นความถี่เดียวที่ประกอบเป็นช่อง
ความจริงก็คือแม้ว่าสถานีวิทยุจะถูกอ้างถึงโดยความถี่กลางพวกเขามักจะใช้ประโยชน์จากความถี่สูงและต่ำกว่าความถี่กลาง ช่วงความถี่ทั้งหมดที่ใช้นี้เรียกว่าแบนด์วิดท์ช่องสัญญาณ
เมื่อคุณปรับคลื่นวิทยุ Wi-Fi เป็นช่อง 6 คุณจะไม่ปรับไปยังช่องสัญญาณแคบ ๆ ที่ 2,437,000,000.000 Hz ความถี่กลางของ Wi-Fi ช่อง 6 คือ 2.437 GHz แต่การส่งสัญญาณแบบกว้าง 20 MHz ในช่อง 6 ใช้ความถี่จาก 10 MHz ต่ำกว่าถึง 10 MHz เหนือความถี่กลาง ดังนั้นแชนเนล 6 จึงเป็นช่วงกว้าง 20 MHz จาก 2.417 GHz ถึง 2.447 GHz ซึ่งอยู่ที่ 2.437 GHz ดังนั้นเมื่อคุณปรับคลื่นวิทยุ Wi-Fi ของคุณเป็นช่อง 6 มันจะพยายามรับความถี่ทั้งหมดในช่วงกว้าง 20 MHz ในขณะที่พยายามละเว้นความถี่ทั้งหมดที่อยู่นอกช่วงกว้าง 20 MHz
Bluetooth ใช้ช่องสัญญาณกว้าง 1MHz หากมีช่องบลูทู ธ อยู่ที่ 2.437 GHz มันจะใช้จาก 2.43 65 ถึง 2.43 75 GHz กล่าวคือช่องสัญญาณที่มีความกว้าง 1MHz อยู่ที่ 2.437 GHz
ดังนั้นแผนการส่งสัญญาณที่เก่าแก่ที่สุดของเราส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกับช่องทางการใช้งานที่มีความกว้าง พวกเขาไม่ได้ใช้ความถี่ที่แคบไม่มีที่สิ้นสุดเดียว
ใช่แบนด์วิดท์มีความสำคัญในอัตราข้อมูล ความกว้างของช่อง (แบนด์วิดท์) มีผลต่อปริมาณข้อมูลที่คุณสามารถส่งต่อหน่วยเวลา สูตรสำหรับการ จำกัด ปริมาณข้อมูลต่อวินาทีที่สามารถส่งด้วยการส่งสัญญาณแบบผู้ให้บริการรายเดียวที่มีแบนด์วิดท์คงที่และระดับเสียงคงที่นั้นถูกค้นพบโดย Claude Shannon ในปี 1948 และเป็นที่รู้จักในชื่อ "Shannon Limit" รูปแบบการปรับที่ทันสมัยเช่น OFDM แพ็คหลาย subcarriers แยกลงในช่องทางที่มีความกว้างคงที่ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับข้อมูลเพิ่มเติมต่อวินาทีจากความกว้างของช่องสัญญาณที่กำหนดมากกว่าแชนนอนที่ตั้งทฤษฎีไว้เพราะแชนนอน จำกัด โมเดลช่องทางของเขา
นอกจากนี้โปรดทราบว่าพวกเราในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ขโมยคำว่า "แบนด์วิดท์" จากวิศวกรวิทยุและตอนนี้เราใช้มันผิดเพื่อหมายถึง "ปริมาณงาน" ในบริบทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับวิศวกรวิทยุแบนด์วิดท์เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยในทรูพุต (รูปแบบการปรับเป็นอีกปัจจัยสำคัญ) สำหรับวิศวกรเครือข่ายคอมพิวเตอร์ "แบนด์วิดท์" นั้นเป็นเพียงคำพ้องสำหรับปริมาณงาน