แพทย์เป็นแพทย์ที่ถูกกฎหมายหรือไม่?

"มีหมออยู่บนเครื่องไหม"? ใครไม่เคยได้ยินคำประกาศนี้ขณะบินระยะทางไกลเป็นพิเศษ ฉันเคยพูดคุยกับแพทย์ชาวอเมริกันเกี่ยวกับผู้ให้บริการที่ไม่ใช่คนอเมริกันซึ่งบอกฉันว่าเขาพยายามเดินทางกับผู้ให้บริการที่ไม่ใช่คนอเมริกันให้มากที่สุดเพราะเป็นกฎหมายของประเทศผู้ให้บริการที่มีเที่ยวบินทุกแห่ง วิธีนี้เขาจะไม่รับผิดชอบ

การสนทนานี้ทำให้ฉันสงสัยว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่และถ้าเช่นนั้นหมายความว่าคุณไม่ได้เป็นแพทย์อีกต่อไปเมื่อคุณขึ้นเครื่องบินจากประเทศอื่นแล้วคุณอยู่ที่ไหน

สิ่งนี้มีผลบังคับใช้หรือไม่หากคุณเดินทางไปต่างประเทศ

คำถามของคุณมีทั้งข้อกฎหมาย แต่อาจสำคัญกว่านั้นก็คือด้านศีลธรรม

โดยทั่วไปแล้วเมื่อเครื่องบินบินขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศผู้ให้บริการ จนถึงตอนนี้ดีมาก ฉันไม่แน่ใจว่าแพทย์ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกานั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่หากต้องการความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินและต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพวกเขาแม้ว่าจะฝึกโดยสุจริต แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นแพทย์ที่คุณกำลังพูดถึง ข้อผูกพันทางกฎหมายเมื่อบินกับสายการบินต่างประเทศ

กฎระเบียบทางกฎหมายกำหนดหนี้สิน แต่ยังมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือแตกต่างกันมากในแต่ละประเทศ เช่นประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนีมี "การไม่ช่วยเหลือบุคคลที่ตกอยู่ในอันตราย" (unterlassene Hilfeleistung) ในฐานะที่เป็นความผิดและมีภาระแม้กระทั่งฆราวาสชายเพื่อช่วยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ การไม่ทำเช่นนั้นมีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี

ฉันไม่ได้ตระหนักถึงประเทศใดที่ห้ามแพทย์หรือฆราวาสให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน สมาชิกของ "Médecins Sans Frontières" มักจะให้ความช่วยเหลือและฝึกฝนการแพทย์ในประเทศซึ่งในกรณีส่วนใหญ่พวกเขาอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นหมอ

แม้จะไม่มีกฎเกณฑ์ทางกฎหมายใดก็ตามแพทย์อย่างน้อยก็ควรที่จะรู้สึกมีคุณธรรมที่จะต้องปฏิบัติตามคำสาบานของฮิปปี้และช่วยเหลือทุกที่ที่ทำได้

คำถามนี้มีอย่างน้อยสี่ด้าน:

• ภาระผูกพันตามกฎหมาย
• การทำให้ถูกกฎหมาย
• ความรับผิดชอบ
• คุณธรรม

ภาระผูกพัน

ภาระผูกพันทางกฎหมายเป็นความเข้าใจผิดที่พบบ่อย ในขณะที่โดยทั่วไปมีหน้าที่ไม่เพียง แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แต่สำหรับทุกคนที่จะช่วยในประเทศส่วนใหญ่ (ทั้งหมด?) ในโลกภาระผูกพันนี้ไม่ทำงานตามที่คนธรรมดาคิด คุณมีภาระผูกพันที่จะช่วยเหลือผู้อื่นหากและเฉพาะในกรณีที่ :

1. ชีวิตของบุคคลอื่นอยู่ในปัจจุบันและเป็นอันตรายทันทีหรือหากมีอันตรายในปัจจุบันและในทันทีซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายถาวรที่ร้ายแรงมาก (เช่นสูญเสียมือ)
2. ความเสี่ยงสำหรับคุณคือ "ยอมรับได้" ตัวอย่างเช่นคุณไม่มีข้อผูกมัดที่จะเข้าไปในอาคารที่ถูกไฟไหม้หรือเพื่อปลดเข็มขัดนิรภัยของคุณในเครื่องบินเมื่อมีความปั่นป่วน (หรือแม้กระทั่งในช่วงที่มีความวุ่นวาย) คุณไม่มีข้อผูกมัดที่จะทำ CPR โดยไม่สวมหน้ากากหากบุคคลนั้นมีรูปลักษณ์ "ติดเชื้อ" ที่ชัดเจนหรือมีแนวโน้มว่าจะได้รับพิษจากการสัมผัสกับสารพิษหรืออื่น ๆ เป็นต้น

คุณไม่มีภาระผูกพันใด ๆ หากผู้ป่วยเมาเพียง (ซึ่งคิดเป็นประมาณ 90% ของ "เหตุฉุกเฉิน" ทั้งหมดที่ฉันเคยเห็นบนเครื่องบินในช่วง 20 ปี) หรือเมาเครื่องบินหรือมีท้องไม่ดี (ซึ่งเป็น 9.9% ของ เหลืออีก 10%) ในความเป็นจริงฉันไม่เคยเห็นเหตุฉุกเฉินจริง ๆ (ส่วนตัวที่สมควรได้รับคำว่า "ฉุกเฉิน") บนเครื่องบิน แต่แน่นอนระยะของคุณอาจแตกต่างกันไป

การทำให้ถูกกฎหมาย

ในทางเทคนิคเมื่ออยู่บนเครื่องบินของ บริษัท ต่างชาติคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาไม่พิจารณาเกรดเยอรมัน (แม้ว่าจะดีกว่ามาก) และเยอรมนีก็ไม่ถือว่าคะแนนที่ถูกต้อง (ส่วนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออก) แม้ว่าจำนวนจะลดลงอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเนื่องจากสมาชิกสหภาพยุโรป

เครื่องบินต่างประเทศในอากาศเป็น "พื้นดิน" ดังนั้นในทางเทคนิคคุณอาจผิดกฎหมายโดยทำหน้าที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแม้ว่าคุณจะถูกกฎหมายก็ตาม ในทางปฏิบัติไม่มีใครใส่ใจอย่างน้อยตราบใดที่ไม่มีใครเสียชีวิต บุคลากรด้านการบินต้องการให้ใครบางคนเข้ามารับผู้โดยสารไม่ทราบ (และอาจไม่สนใจในขณะนั้น) และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มักไม่ชอบคิดเรื่องกฎหมายมากกว่าที่จำเป็นจริงๆ (เช่นกัน) พยาบาลทำ แต่แพทย์มักจะไม่ทำ)

ความรับผิดชอบ

ในประเทศที่มีเขตอำนาจศาลที่ "ค่อนข้าง" ความเสียหายจากการให้การปฐมพยาบาลมักได้รับการคุ้มครองโดยการประกันการชดใช้ค่าเสียหาย นี่คือเพื่อให้แน่ใจว่าคนไม่ละเว้นจากการช่วยเหลือในความกลัวของหนี้สิน ในบางประเทศคุณสามารถลากไปที่ศาลในราคา $ 100 ล้านถ้ามีอะไรผิดพลาด

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไม่เคยได้รับการคุ้มครองจากประกันสาธารณะและคาดว่าจะมีการประกันความเสียหายของตนเอง (ซึ่งไม่ฟรีอย่างแม่นยำและต้องจ่ายจากเงินส่วนตัว) แม้ว่าฉันจะไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อนก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เป็นไปได้ที่ บริษัท ประกันภัยจะพยายามทำการหลอกลวงหากคุณมี "ทางการ" ดำเนินการนอกกฎหมายของคุณ

สายการบินที่มีชื่อเสียงเคยให้สัญญากับคุณ "ครอบคลุมทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" สัญญาสละสิทธิ์ก่อนที่คุณจะเริ่ม แต่บางคนก็เริ่มที่จะโลภจาก "คุณต้องมีประกันอยู่ดี" ซึ่งแน่นอนหมายความว่าเนื่องจากคุณไม่ได้รับเงินสำหรับการทำงานที่น่ารำคาญและมีความเสี่ยงที่สมบูรณ์

คุณธรรม (ทั้งสองวิธี)

ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์โดยทั่วไปเท่าที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม คุณธรรมเดียวกันนี้ใช้กับทุกคนที่ชอบชี้นิ้วไปที่คนอื่นและพูดว่า "ความรับผิดชอบของพวกเขา"

ช่วยคนที่ตกอยู่ในอันตรายเป็นภาระผูกพันทางจริยธรรมสำหรับทุกคน ในทางกลับกันการอาเจียนโดยเมาเหม็นไม่ได้เป็นภาระหน้าที่ของใคร

ในทางกลับกันคำถามที่ร้ายแรงเกี่ยวกับศีลธรรมของการเหม็นเพราะเครื่องดื่มฟรีเท่านั้น (ไม่เพียงเพราะส่วนที่อาเจียน แต่ในแง่ของความปลอดภัยทั่วไปก็มีต่อคนอื่น ๆ ประมาณ 200 คนในห้องโดยสารด้วย) .

มีคำชี้แจงเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้โดยสมาคมการแพทย์โลกที่นี่:

http://www.wma.net/en/30publications/10policies/a26/

ดังนั้นสมาคมการแพทย์โลกจึงเรียกร้องให้สมาชิกสนับสนุนสายการบินระดับชาติที่ให้บริการเที่ยวบินผู้โดยสารระยะกลางและระยะยาวเพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้:

จัดเตรียมเครื่องบินของพวกเขาด้วยชุดวัสดุและยาฉุกเฉินทางการแพทย์ที่เพียงพอและเป็นมาตรฐานซึ่ง:

• บรรจุในลักษณะที่เป็นมาตรฐานและง่ายต่อการระบุ

• มีข้อมูลและคำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษรวมถึงภาษาหลักของประเทศต้นทางและปลายทาง และ

• รวมถึงเครื่องกระตุ้นหัวใจภายนอกอัตโนมัติซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญในการตั้งค่าที่ไม่ใช่มืออาชีพ

ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ที่สามารถติดต่อได้ทางวิทยุหรือโทรศัพท์เพื่อช่วยเหลือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหรือให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอาสาสมัครหากอยู่บนเรือและพร้อมให้ความช่วยเหลือ

พัฒนาแผนฉุกเฉินทางการแพทย์เพื่อชี้นำบุคลากรในการตอบสนองต่อความต้องการด้านการแพทย์ของผู้โดยสาร

ให้คำแนะนำทางการแพทย์และองค์กรที่เพียงพอแก่บุคลากรการบินนอกเหนือจากการฝึกอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อให้พวกเขาสามารถตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้ดียิ่งขึ้นและเพื่อช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่อาสาให้บริการในกรณีฉุกเฉิน

ให้การประกันสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและช่วยให้บุคลากรสามารถปกป้องพวกเขาจากความเสียหายและหนี้สิน (วัสดุและวัสดุที่ไม่ใช่วัตถุ) ซึ่งเป็นผลมาจากการวินิจฉัยและการรักษาในเที่ยวบิน

สมาคมการแพทย์โลกเรียกร้องให้สมาชิกสนับสนุนหน่วยงานการบินแห่งชาติเพื่อจัดทำรายงานสรุปรายปีเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการแพทย์ในเที่ยวบินตามรายงานเหตุการณ์มาตรฐานที่บังคับใช้สำหรับเหตุการณ์ทางการแพทย์ทุกครั้งที่ต้องการการปฐมพยาบาลหรือความช่วยเหลือทางการแพทย์อื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงของเที่ยวบิน

สมาคมการแพทย์โลกเรียกร้องให้สมาชิกส่งเสริมให้สมาชิกสภานิติบัญญัติของพวกเขาออกกฎหมายเพื่อให้ภูมิคุ้มกันจากการดำเนินการทางกฎหมายแก่แพทย์ที่ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในเหตุการณ์ทางการแพทย์ในเที่ยวบิน

ในกรณีที่ไม่มีภูมิคุ้มกันทางกฎหมายสายการบินจะต้องยอมรับผลทางกฎหมายและทางการเงินทั้งหมดในการให้ความช่วยเหลือโดยแพทย์

สมาคมการแพทย์โลกเรียกร้องให้สมาชิก:

• ให้ความรู้แก่แพทย์เกี่ยวกับปัญหาการเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์

• แจ้งให้แพทย์ทราบถึงโอกาสในการฝึกอบรมหรือจัดหาหรือส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมหากไม่มีอยู่ และ

• กระตุ้นให้แพทย์หารือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ในเที่ยวบินก่อนการเดินทาง

สมาคมการแพทย์โลกเรียกร้องให้ IATA พัฒนามาตรฐานที่แม่นยำยิ่งขึ้นในพื้นที่ต่อไปนี้และทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อนำมาตรฐานเหล่านี้ไปใช้ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย:

• อุปกรณ์ทางการแพทย์และยาเสพติดในเที่ยวบินระยะกลางและระยะยาว

• มาตรฐานวัสดุบรรจุภัณฑ์และข้อมูลรวมถึงคำอธิบายหลายภาษาและคำแนะนำในภาษาที่เหมาะสม;

• ขั้นตอนการจัดองค์กรการแพทย์ฉุกเฉินและโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับบุคลากรทางการแพทย์

โปรดสมมติว่าคุณเป็น

ฉันสามารถให้คำตอบแก่คุณตัวอย่างเช่นกฎหมายของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น แต่หลายประเทศมีกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกัน (นอกเหนือจากนั้นเป็นหน้าที่ทางจริยธรรมของคุณ)

กฎหมายดัตช์มาตรา 450ฯ (แปลโดยฉัน):

ผู้ซึ่งเป็นพยานในทันทีและเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้อื่นไม่ได้ให้ความช่วยเหลือต่อความสามารถของเขาโดยไม่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่นหากผู้อื่นเสียชีวิตจะต้องถูกลงโทษในคุก 3 เดือนหรือปรับตามลำดับที่สอง (ณ ปี 2014: € 4,050)

ดังนั้นโดยทั่วไปคุณจะต้องรับผิดชอบหากคุณไม่ได้รับความช่วยเหลือจากความสามารถของคุณ (ความสามารถของคุณอาจเรียกบริการฉุกเฉิน)

ในเที่ยวบินเดลต้าระหว่างประเทศฉันนั่งถัดจากคู่ที่เที่ยวบินต่อเนื่องก่อนหน้านี้เคยเห็นชายคนหนึ่งมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย บังเอิญสจ๊วตจากเที่ยวบินที่ดูแลฉุกเฉินเป็นหนึ่งในลูกเรือของเที่ยวบินของฉันและเขาและคู่ถัดจากฉันเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับมันและแบ่งปันประสบการณ์ทั้งหมดกับฉัน

ปรากฎว่าในกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์สมาชิกลูกเรือตามกฎหมายได้รับการฝึกฝนในการปฐมพยาบาล นอกจากนี้ฉันได้เรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ "ทางการแพทย์" ที่ด้านหลังของเครื่องบินซึ่งเมื่อใช้แล้วจะเชื่อมต่อลูกเรือกับแพทย์ทันทีและเขาสั่งให้ลูกเรือทำอะไรในกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์

ดังนั้นจึงอาจไม่สำคัญ (หรือสายการบินอาจไม่ "สนใจ" ไม่ว่าจะมีแพทย์อยู่บนเครื่องบินหรือไม่ก็ตาม) เนื่องจากลูกเรือได้รับการฝึกฝนอย่างน้อยต้องเป็นรีเลย์สำหรับแพทย์ "on-call" ของสายการบิน ฉันไม่แน่ใจว่าจะต้องได้รับใบอนุญาตจากแพทย์ที่ปลายสายอีกหรือไม่และนี่เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับสายการบินทั้งหมด แต่ฉันรู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นในเที่ยวบินระหว่างประเทศของเดลต้า

ฉันคิดว่าถ้าโทรศัพท์ "ทางการแพทย์" จำเป็นต้องใช้กฎหมายของฉันสายการบินจะต้องการจัดการกับปัญหาโดยใช้โปรโตคอลของพวกเขาแทนที่จะอนุญาตให้ "หมอ" สุ่มบางอย่างที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินเพื่อเข้าไปแทรกแซงเนื่องจากความรับผิดตามกฎหมาย . แน่นอนว่าโปรโตคอลและกฎหมายมีความคลุมเครือเล็กน้อยในกรณีฉุกเฉินที่ 5,000 ฟุตและฉันแน่ใจว่าลูกเรือมีวิจารณญาณอย่างมากในการตัดสินใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะต้องทำเมื่อวิวัฒนาการฉุกเฉิน

การค้นหา google อย่างรวดเร็วเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้ฉันไปที่บทความเช่นนี้ที่ยืนยันสิ่งที่ฉันเรียนรู้จากการสนทนานั้น