เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะตัดสินได้อย่างไรว่าสินค้านำเข้าของผู้โดยสารนั้นเก่าหรือเพิ่งซื้อมา?

เกือบทุกประเทศเรียกเก็บภาษีศุลกากร (โดยได้รับอนุญาต) สินค้านำเข้าจากผู้โดยสารเช่นอิเล็กทรอนิกส์เสื้อผ้า ฯลฯ ที่ซื้อจากนอกประเทศนั้นและตั้งใจจะอยู่ที่นั่น

ฉันเป็นพลเมืองของสหภาพยุโรป (เยอรมนี) และเมื่อฉันบินจากประเทศนอกสหภาพยุโรปฉันถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจกระเป๋าของฉันให้ละเอียด ฉันมีเสื้อและรองเท้าใหม่สองสามอัน (ที่มีป้ายกำกับถอดออก) และพวกเขาไม่ได้ถามอะไรเลยแม้ว่าเสื้อผ้าจะไม่เคยใส่เลย ค่าอยู่ที่ประมาณค่าเผื่อปลอดภาษี€ 430 หรือมันเกิน

อย่างไรก็ตามอีกครั้งที่ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามเมื่อฉันไม่ได้นำสิ่งใหม่ ฉันมีความยากลำบากในการอธิบายว่ากล้องและเสื้อผ้าของฉันไม่ได้ใหม่และได้ซื้อในเยอรมนี / สหภาพยุโรปและไม่ใช่ในระหว่างการเดินทางนอกสหภาพยุโรป

บางคนสามารถอธิบายได้ว่ามันทำงานอย่างไร เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะตัดสินได้อย่างไรว่าสินค้านำเข้าของผู้โดยสารนั้นเก่าหรือเพิ่งซื้อมา? ผู้โดยสารจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าพวกเขาไม่ได้ซื้อสินค้าในระหว่างการเดินทาง? เนื่องจากผู้คนไม่พกใบเสร็จรับเงินของทุกสิ่งที่พวกเขามีกับพวกเขาฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นไปได้ที่จะพิสูจน์ว่ามีอะไรใหม่ที่ค่อนข้างยุติธรรมไม่ได้ซื้อในระหว่างการเดินทาง

ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าคนจำนวนมากมักจะลบบรรจุภัณฑ์และ / หรือแท็กของสินค้าใหม่เพื่อปกปิดว่ามีการนำเข้าสินค้า แต่ยังมีคนที่เดินทางด้วยสินค้าใหม่ที่ซื้อมาไม่นานก่อนการเดินทาง เจ้าหน้าที่ศุลกากรแยกแยะทั้งสองได้อย่างไร

มีสัญญาณบอกเล่าเรื่องราวหลายอย่าง (เงื่อนไขบรรจุภัณฑ์ใบเสร็จรับเงินมีรายการที่เหมือนกันหลายอย่างมีสิ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ) ที่อาจแนะนำให้ซื้อสินค้าในระหว่างการเดินทาง นอกจากนั้นฉันเดาว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรปฏิบัติตามแนวทาง (ไม่ได้เผยแพร่) หรือใช้วิจารณญาณของตัวเอง แต่พวกเขาทำในกรณีใด ๆ มีดุลยพินิจอย่างมาก แม้ว่าคุณจะมาจากไหนในปัจจุบันอาจมีความสำคัญ (ฉันไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ แต่ฉันมีความรู้สึกว่าเที่ยวบินจากเช่นฮ่องกงได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริงมากกว่าคนอื่น ๆ ที่สนามบินท้องถิ่นของฉัน - แม้ว่ามันจะไม่สำคัญก็ตาม ไปยังทางออกอื่นและผสมกับการไหลของนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป)

สิ่งหนึ่งที่ฉันได้ยินครั้งหนึ่งจากเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรคือพวกเขาพึ่งพาความโง่เขลาความไม่รู้ของผู้คนและผู้ให้ข้อมูลหรือเคล็ดลับในการจับผู้ลักลอบขนสินค้า (เล็กและใหญ่) มีคนจำนวนมากที่พกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ พร้อมบรรจุภัณฑ์และใบเสร็จรับเงินจากสถานที่ที่พวกเขามาเพื่อให้คุ้มค่าในขณะที่ แต่สิ่งที่พวกเขาทำมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การยับยั้งและกู้คืนเงินไม่มีใครคาดหวังว่ามันจะเป็นกระบวนการที่ถูกต้อง 100% และผู้คนสามารถนำเข้าสิ่งต่าง ๆ อย่างผิดกฎหมายทุกวัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรทราบก็คือความคิดของคุณดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงความคิดที่ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าคุณซื้อบางสิ่งในต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นอย่างน้อยก็ไม่ต้องเก็บภาษี ฉันไม่ทราบกฎหมายเยอรมันที่เกี่ยวข้องเลย แต่การค้นหาทางอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วแสดงให้เห็นว่าเป็นเช่นนั้นในเยอรมนีเช่นกัน

วิธีที่คุณจะควรที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่างที่ไม่ได้ใหม่เป็นจริงโดยการผลิตเอกสารบางอย่างสร้างเมื่อใดและที่คุณซื้อรายการ จากมุมมองของคุณการไม่รับใบเสร็จรับเงินสำหรับสิ่งของของคุณเป็นสิ่งที่ได้รับ แต่จากมุมมองของทางการมันไม่ใช่อย่างนั้น ดังนั้นความจริงที่ว่าคนทั่วไปไม่ได้ทำมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขามากเท่าที่เป็นสำหรับคนที่เกี่ยวข้อง หากตัวแทนกำหนดสิ่งใหม่คุณอาจไม่มีสิทธิไล่เบี้ยที่มีประสิทธิภาพมากหากคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ (ถ้าคุณยังมีอยู่คุณอาจยังคงผลิตใบเสร็จรับเงินหลังจากนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้พกติดตัวไปด้วยก็ตาม)

หากอุปกรณ์ของคุณ (เช่นกล้อง) เป็นเกรดมืออาชีพและมีราคาแพงเป็นพิเศษคุณอาจต้องการดำเนินการต่อไปอีกหนึ่งขั้นและปลอดภัยสำหรับเอกสารส่งออกชั่วคราวเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ง่ายดาย บางประเทศยังกีดกันการเดินทางด้วยอัญมณีจำนวนมากด้วยเหตุผลนั้น

หากต้องการเพิ่มคำตอบอื่น ๆ (คำตอบของ Relaxed นั้นเป็นจุด ๆ เดียว - เจ้าหน้าที่ศุลกากรใช้สัญชาตญาณของพวกเขา) ต่อไปนี้เป็นข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางกฎหมาย โปรดทราบว่า IANAL - ดังนั้นนี่คือข้อมูลทั้งหมดเพื่อความรู้ของฉันเท่านั้น

ถูกต้องตามกฎหมายก็เพียงพอแล้วที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของเยอรมันจะสงสัยว่ามีบางสิ่งที่นำเข้ามาในประเทศเป็นครั้งแรก ไม่มีความจำเป็นทางกฎหมายสำหรับพวกเขาที่จะพิสูจน์มันก่อนที่พวกเขาจะขอให้คุณชำระภาษีศุลกากร (และปรับสำหรับสินค้าที่ไม่ได้ประกาศ) แน่นอนว่าในกรณีที่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตัดสินใจผิดพลาดโอกาสในการอุทธรณ์ของคุณค่อนข้างดี แต่ในหลักการมันเป็น reponsibility ของนักท่องเที่ยวที่จะแสดงหลักฐานว่าสินค้าที่คุณนำเข้ามาในประเทศได้รับนำกลับไปโดยคุณ เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

มีสองวิธีในการทำเช่นนั้น - ไม่ว่าคุณจะพกใบเสร็จรับเงินสำหรับสินค้าที่มีหมายเลขซีเรียลและนั่นเป็นการพิสูจน์ว่าสินค้าที่ซื้อภายในสหภาพยุโรปหรือ (2) ก่อนออกเดินทางจากประเทศเยอรมนีคุณไปที่ สำนักงานศุลกากรในท้องถิ่นของคุณพร้อมสินค้าและให้พวกเขาเตรียมแบบฟอร์มสำหรับ "การเข้าเมืองใหม่ที่ดี" สำหรับคุณ คำที่เป็นทางการสำหรับเรื่องนี้คือ "Nämlichkeitsbescheinigung" (ซึ่งอาจเป็นคำที่ไม่ธรรมดาที่สุดที่คิดค้นขึ้นมา - แปลโดยประมาณว่าเป็น "Proof of Particularity" ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรเหมือนคำภาษาเยอรมัน) โดยปกติแล้วสินค้าของคุณจะต้องมีหมายเลขซีเรียลสำหรับวิธีการทำงานนั้น

ฉันไม่คิดว่าคุณจะพบคำตอบที่รัดกุมและแม้ว่าจะมีคำตอบอยู่แผนกหนึ่งแผนกศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองก็ไม่ต้องการให้คนทั่วไปรู้จัก ในแง่ทั่วไปมาก ... พวกเขาสังเกตเห็น พวกเขาได้รับการฝึกฝนให้อ่านภาษากายของคุณเพื่อตีความวิธีที่คุณตอบไปให้ไกลกว่าพื้นผิว พวกเขาดูว่าคุณแต่งตัวอย่างไรคุณอยู่ที่ไหนคุณอยู่ที่นั่นนานแค่ไหนทำไมคุณถึงอยู่ที่นั่น จากนั้นพวกเขาทำการตัดสินใจตามสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็น

ในขณะที่พวกเขาได้ตั้งค่าตัวอย่างที่พวกเขาใช้ในการฝึกอบรมเป็นส่วนใหญ่เวลาในงานที่ปรับปรุงการตัดสินของพวกเขา บางทีเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่คุณเชื่อว่าเป็นเรื่องยากในการทำงานใหม่หรืออาจจะมีวันหยุด

ในบางกรณีเจ้าหน้าที่ที่กำหนดเองสามารถดูว่ามีอะไรซื้อในการเดินทางของคุณหรือนำมาจากบ้านโดยดูจากหมายเลขซีเรียล การคิดค้นทางอิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างมากเก็บบันทึกหมายเลขซีเรียลประเทศที่ขายไป ฯลฯ

อย่างไรก็ตามในกรณีส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องส่วนตัวและอาจขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ศุลกากร สิ่งเดียวที่ในความคิดของฉันคุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหลักฐานการซื้อสินค้า

ฉันทำได้โดยเก็บสแกนไว้ในดรอปบ็อกซ์และสามารถเข้าถึงดรอปบ็อกซ์ของฉันได้จากอุปกรณ์ของฉัน (แท็บเล็ต / สมาร์ทโฟน) เนื่องจากคุณอาจไม่ได้นำอุปกรณ์ใหม่ ๆ มาใช้คุณก็สามารถเลือกที่จะพกใบเสร็จรับเงินของคุณติดตัวไปด้วย