ฉันเห็นต้นกล้าขายทั้งสีเขียวและสีดำ ฉันสมมติว่าพวกเขาไม่ได้ใช้แทนกันได้ อาหารหรือเทคนิคประเภทใดบ้างที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภท เป็นประเภทที่ได้รับการสนับสนุนในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันหรือบางวัฒนธรรมชื่นชมทั้งสองอย่างหรือไม่?
ฉันเห็นต้นกล้าขายทั้งสีเขียวและสีดำ ฉันสมมติว่าพวกเขาไม่ได้ใช้แทนกันได้ อาหารหรือเทคนิคประเภทใดบ้างที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภท เป็นประเภทที่ได้รับการสนับสนุนในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันหรือบางวัฒนธรรมชื่นชมทั้งสองอย่างหรือไม่?
คำตอบ:
เช่นเดียวกับผักและผลไม้มากมายระดับน้ำตาลในต้นแปลนทินจะเพิ่มขึ้นตามการทำให้สุก
เกี่ยวกับการใช้งานโดยวัฒนธรรมที่แตกต่าง:
ตรินิแดดและโตเบโก , ฮอนดูรัสและจาเมกา : ต้นแปลนทินนั้นเป็นเพียงแค่ทอดต้มหรือเพิ่มลงในซุป
เกรละ : ต้นแปลนทินสุกนึ่งและเป็นอาหารเช้ายอดนิยม
กานา : กล้ากินต้มกับ kontomire สตูว์สตูว์กะหล่ำปลีหรือ fante-fante (ปลา) สตูว์ สามารถนำไปต้มกับถั่วลิสง, พริกไทย, หัวหอมและน้ำมันปาล์มเพื่อให้ eto ซึ่งกินกับอะโวคาโด
ทางใต้ของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะในเท็กซัสหลุยเซียน่าและฟลอริดา : ดงส่วนใหญ่มักย่าง
ไนจีเรีย : กล้ากินกินต้มหรือย่าง; ย่างกล้าเรียกว่า booli มักกินน้ำมันปาล์มหรือถั่วลิสง
(แหล่งที่มา )
ที่จาไมก้าเรายังใช้ทุ่งหญ้าสีเขียวเพื่อทำโจ๊ก สามารถใช้ทาสุกทาร์ตได้ เรายังกินคนที่สุกแล้วต้มเป็นอาหารแป้ง
ในรัฐ Kerala ของอินเดียตอนใต้มีการใช้ต้นกล้า (สีเหลืองและสีดำ) และต้นกล้า (สีเขียว) ที่ไม่เหมือนกันในจาน
คนที่สุกแล้วนั้นถูกปรุงด้วยแรงดัน / นึ่งและกินกับ puttu (เค้กข้าวสวย) และเป็นรายการอาหารเช้าที่ดี มันยังใช้ใน Pazham Payasam (พุดดิ้งต้นแปลนทินกับน้ำตาลโตนดและเนยใสเนย / เนยแข็งชี้แจง)
สีเขียวใช้ในอาหารคาวเช่นผัด ( Ethakka Mezhukkupuratti ) และAvial (แกงผักรวมกับมะพร้าว)
อีกจานที่ได้รับความนิยมคือ Kalan ซึ่งเสิร์ฟในระหว่างงานเลี้ยง ต้นอ่อนกึ่งสุกจะหั่นบาง ๆ ด้านข้างและทอดเพื่อทำ "กล้วยทอด"
ในมาลาวีดงสีเขียวถูกปรุงเป็นอาหารจาน 'mbalagha' ซึ่งเป็นสตูว์ที่ปรุงด้วยเนื้อวัวเนื้อหมูและเนื้อแพะเป็นหลัก ในภาคกลางและภาคใต้ปรุงเป็นเผ็ดมักจะปรุงในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 'chilabu' สถานที่ Mang'ina ตามที่เรียกว่า ต้นอ่อนสุกมักกินเป็นอาหารเช้า